3 นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ได้ส่องเทรนด์เศรษฐกิจไทย

3 นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ได้ส่องเทรนด์เศรษฐกิจไทย
เศรษฐศาสตร์ ปี 2565 แม้เป็นปีที่มีความท้าทาย แต่ส่วนมากยังเกิดผลกระทบกับตลาดทุน ที่เรียกว่า Investment Storm หรือมรสุมการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง เศรษฐศาสตร์ ทำให้เป็นปีที่ยากมากในเรื่องลงทุน แต่ปี 2566 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายมากกว่าปีนี้ด้วยซ้ำ เพราะจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า เศรษฐศาสตร์ จะทำให้วิกฤตจะเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) ที่จะกระทบต่อภาคการส่งออก, ภาคการผลิต และภาคการจ้างงาน ซึ่งวิกฤตที่เกิดขึ้นในโลกย่อมกระทบมาถึงประเทศไทยแน่นอน
ตอนนี้ผลกระทบดังกล่าวเริ่มมาถึงไทยแล้ว เศรษฐศาสตร์ หากประเมินข้อมูลแบงก์ชาติพบว่าตัวเลขการส่งออกของไทยได้ปรับตัวลดลงมาเป็นเดือนที่ 3 เศรษฐศาสตร์ โดยเดือน ก.ค. 65 ต่ำกว่าเดือน มิ.ย.ราว 3% และเดือนล่าสุดต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า 4% ขณะที่ตัวเลขการบริโภคของประชาชนในช่วง 2-3 เศรษฐศาสตร์ เดือนที่ผ่านมาเริ่มทรงตัวนิ่ง ๆ ตอนนี้จะมีเพียงภาคท่องเที่ยวที่ปรับตัวดี เพราะฉะนั้นความท้าทายสำหรับประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาก เศรษฐศาสตร์ จึงมีโอกาสอย่างยิ่งที่เราอาจจะข้ามไม่พ้นเหวดร.กอบศักดิ์กล่าวต่อว่า สถานการณ์ดอกเบี้ยสหรัฐยังไม่จบง่าย ๆ เพราะผู้ว่าการเฟดพูดเองว่าการขึ้นดอกเบี้ยมาอยู่ที่ เศรษฐศาสตร์ 3-3.25% ในปัจจุบันถือว่าแค่เริ่มก้าวแรก ยังห่างไกลที่จะแตะเบรก เศรษฐศาสตร์ โดยเป้าสิ้นปีหน้าจะขึ้นดอกเบี้ยไปอยู่ที่ 4.6% ในขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐอยู่ที่ระดับ 8% จึงอาจจะยังไม่สมน้ำสมเนื้อ ตอนนี้ตลาดอาจยังถูกหลอกหรือให้ความหวัง ฉะนั้นคาดการณ์ว่าเฟดอาจต้องใช้ยาแรง เศรษฐศาสตร์ โดยต้องขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 5% เป็นอย่างน้อย