จุดสมดุลของ ‘เอไอ’

หน้าที่ของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอในด้านของการบิดเบือนข่าวสารนั้นถือว่าน่าวิตกแล้วก็บางทีอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการรับทราบความเป็นไปของสังคมในอนาคตได้ไม่น้อย
เทคโนโลยี เพราะว่าคนรุ่นหลังนั้นเกือบจะไม่สนใจการข้อมูลที่ได้รับมาจากในแบบเดิม แต่ว่าย้ำการใช้เครือข่ายสังคมซึ่งเอไอบางทีอาจเสนอแนะรวมทั้งบิดเบือนความเป็นจริงได้ ซึ่งในเวทีการเมืองระดับนานาชาติก็เคยมีกรณีศึกษามาแล้ว หัวข้อถัดมาก็คือ การใช้ข้อบังคับเพื่อจัดแจงปัญหาต่างๆที่อาจจะมีการเกิดขึ้นจากเอไอนั้นยังจำต้องได้รับการถกถียง อภิปราย หรืออยากแนวทางการทำประชาพิจารณ์อีกมากมาย เพราะเหตุว่าความเคลื่อนไหวที่จะมีสาเหตุจากเทคโนโลยีเอไอนั้นจะมีผลในวงกว้างอีกทั้งการบ้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ในเวลาที่ข้อบังคับการค้าขาย ข้อบังคับทรัพยสินทางสติปัญญา กฎหมายระหว่างประเทศ อื่นๆอีกมากมาย ดูเหมือนจะก้าวตามเทคโนโลยีเอไอไม่ทัน เนื่องจากว่าผลงานที่เกิดขึ้นมาจากการผลิตสรรค์ของเอไอนั้นมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวทั้งยังบทความ วรรณกรรม ภาพวาด รูป อื่นๆอีกมากมาย แต่ไม่มีนิยามที่แจ้งชัดว่าผลตอบแทนที่ได้นั้นจะเป็นของใครกันแน่ ด้วยเหตุว่าการยืนยันความเป็นเจ้าของผลงานดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วทำเป็นไม่ง่ายเลย ด้วยความประณีตและวิจิตรบรรจงที่ได้จากงานของเอไอนั้นจำแนกด้วยวิจารณญาณของคนเรามิได้แล้ว ตอนที่ตอนนี้วัสดุที่ใช้เอไอประดิษฐ์ผลงานก็มีล้นหลามหลายแพลตฟอร์ม แล้วก็มีลักษณะท่าทางจะมากขึ้นเรื่อยๆเรื่อยในอนาคต
เมื่อพวกเรานำผลงานพวกนั้นมาใช้ในเชิงการค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็มีลักษณะท่าทางว่าพวกเราจะพบกรณีพิพาทที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ผลงานเอไอมากขึ้นเรื่อยๆ
ตามไปด้วย หากว่าไม่มีข้อบังคับรองรับก็ยากที่จะให้ศาลชี้ขาดได้ถูกสมควรอย่างที่ควรเป็น ข่าวเทคโนโลยี ด้วยเหตุว่าลักษณะการทำงานของเอไอนั้นจะเลือกประเมินผลจากแหล่งข้อมูลเยอะแยะแล้วก็สังเคราะห์ให้ได้ผลสำเร็จงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์เฉพาะของตนเป็นหลัก มันก็เลยไม่มีที่ไปที่มาหรือการอ้างอิงอย่างมีระบบระเบียบปฏิบัติราวกับที่มนุษย์เราเคยชิน โน่นจะคือปัญหาใหญ่แน่ๆ โดยยิ่งไปกว่านั้นกับเรื่องทรัพยสินทางสติปัญญาซึ่งยังไม่อาจจะหาจุดสมดุลระหว่างความคิดริเริ่มของผู้คนกับการประดิษฐ์โดยเอไอได้ ก็เลยมีทิศทางว่าจะกำเนิดข้อโต้แย้งตามมาเยอะแยะในเร็วๆนี้ ปมทั้งหมดทั้งปวงนั้นถ้าหากพินิจพิเคราะห์กันดีๆแล้วจะพบว่ามันมิได้อยู่ที่ตัวเทคโนโลยีแม้กระนั้นเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของปัญญาประดิษฐ์กลุ่มนี้ว่าได้นึกถึงข้อความสำคัญหวั่นไหวต่างๆพวกนี้มากมายเท่าใด แล้วก็มีการวางแบบให้ปกป้องปัญหาพวกนี้ได้ไหม ตัวอย่างเช่นการใช้เอไอกับงานไม่ถูกกฎหมาย ได้แก่การใช้เอไอเขียนอีเมลเพื่อฉ้อโกงพลเมือง จากการทดลองในขณะนี้พบว่าเอไอยอดฮิตอย่าง ChatGPT นั้นจะไม่ยินยอมเขียนอีเมลดังกล่าวมาแล้วข้างต้นตามคำสั่งเนื่องจากทราบว่าจะกำเนิดความย่ำแย่กับคนอื่นได้ แต่ว่ากับเอไอหลายๆตัวกลับเขียนออกมาได้อย่างไม่ขัดข้อง ผมย้ำอีกรอบว่าเอไอเป็นเทคโนโลยีที่อนาคตที่พวกเราจำต้องเกื้อหนุนไม่ใช่ห้ามใช้หรือห้ามปรับปรุง เนื่องจากจุดเด่นที่กำลังจะได้จากวิวัฒนาการของเทคโนโลยีเอไอนั้นยังมีอีกมากมาย เพียงแค่พวกเราจำต้องใส่ใจในผลพวงด้านลบและก็หาวิธีปกป้องให้เหมาะสมที่สุดเพียงแค่นั้น ในขณะหลายๆประเทศเป็นต้นว่าอิตาลีที่สั่งห้ามใช้ ChatGPT เพราะว่ามีโอกาสเสี่ยงต่อการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อายุไม่ถึง 18 ปีที่บางทีอาจได้รับข้อมูลที่ไม่เหมาะสม เหมือนกับหน่วยงานป้องกันคนซื้อที่ยุโรปที่ได้แนะนำประเทศสมาชิกให้รอบคอบในหัวข้อดังกล่าวมาแล้วข้างต้น
แนะนำข่าวเทคโนโลยี อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : TikTok ประสานมือ กกต. เปิด”ศูนย์ข้อมูลการเลือกตั้ง”ต้านทานข้อมูลบิดเบือน”